Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the it-l10n-ithemes-security-pro domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home/runcloud/webapps/template01/wp-includes/functions.php on line 6121

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the it-l10n-ithemes-security-pro domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home/runcloud/webapps/template01/wp-includes/functions.php on line 6121
เรียนออนไลน์ Is Now: 11 เทรนด์ E-Learning - template01

วิธี เรียนออนไลน์ หรือ E-Learning และ E-Training เป็นวิธีการเรียนการสอนที่มีข้อดีหลายอย่างชัดเจนที่ผู้อยู่ในแวดวงการศึกษาทั้งครูอาจารย์และนักเรียนนักศึกษาทราบกันอยู่แล้ว เช่น ความยืดหยุ่นเรื่องเวลาการเรียน ค่าใช้จ่าย ความสะดวกเรื่องการเดินทางและเวลา ในปี 2021 นี้เป็นปีที่มีความท้าทายเพิ่มเข้ามาอีกหลายอย่าง เช่น การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) หรือสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเข้าถึงความรู้มากขึ้น

บทความนี้ WOW ชวนส่องแนวโน้มของการ เรียนออนไลน์ หรือ E-Learning ในปีนี้และในอนาคตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา โรงเรียน ผู้ประกอบการ ครูบาอาจารย์ หรือนักเรียนผู้เรียน จะได้รับผลกระทบหรือรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อย หรือแม้แต่บริษัทห้างร้านเองที่จัดอบรมเพิ่มทักษะให้พนักงาน จะทำอย่างไรให้การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ของเราผลิดอกออกผลดีที่สุด

เรียนออนไลน์, ระบบ e-learning, เว็บ e learning, ระบบ e learning

เทรนด์ เรียนออนไลน์ E-Learning 11 อย่าง ในปี 2021 และอนาคต

1. เรียนบนมือถือหรือสมาร์ทโฟน

มือถือหรือสมาร์ทโฟนกลายเป็นอวัยวะอย่างที่ 33 อย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว จากข้อมูลของเว็บไซต์รวบรวมสถิติเชิงธุรกิจ Statista เผยว่า เมื่อปีที่แล้ว 2019 จากประชากรทั่วโลกกว่า 7,700 ล้านคน มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่า 6,800 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าตัวเลขนี้จะแตะ 7,000 ล้านคนในปี 2020 ซึ่งเท่ากับว่ามีผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่คิดเป็นประมาณ 89% ของประชากรทั้งหมด

จากตัวเลขผู้ใช้งานนี้ ก็มีตัวเลขของผู้เรียน E Learning ผ่านโทรศัพท์มือถือกว่า 99% ที่บอกว่า การเรียนผ่านโทรศัพท์หรือสมาร์ทโฟน (Mobile Learning) ช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียนได้ดีขึ้น และ 67% เรียนคอร์สออนไลน์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ทำให้โทรศัพท์มือถือทำได้มากกว่าโทรออกรับสาย โดยเฉพาะในด้านการศึกษา เช่น การค้นหาข้อมูลหรือดูคลิปวิดีโอการเรียนการสอนเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ ผู้สอนติดตามการเรียนของนักเรียนได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน

2. เรียนรู้ผ่านสังคม

เด็กเล็กเรียนรู้การพูดหรือการใช้ภาษาจากพ่อแม่และคนรอบข้าง การเข้าแถวผ่านเพื่อนร่วมชั้นอนุบาล สิ่งเหล่านี้เรียกว่าการเรียนรู้ผ่านสังคม (Social Learning) โดยที่ผ่านมา การเรียนรู้ผ่านสังคมเป็นการเรียนรู้ที่มาจากการเจอหน้ากัน

ทว่าเวลาผ่านไป การปฏิสัมพันธ์ของคนในสังคมสามารถทำได้ผ่านเครื่องมือออนไลน์มากขึ้นและหลากหลายรูปแบบ เช่น การตั้งกระทู้ถามตอบบนพื้นที่โซเชียลมีเดีย การอภิปรายด้วยการวิดีโอคอล ซึ่งทั้งหมดสามารถทำผ่านระบบการเรียนออนไลน์ได้เช่นกัน จึงไม่แปลกที่ในอนาคต นักเรียนภาษาจะสามารถเรียนภาษาใหม่ได้ถึงระดับ intermediate หรือ near-native โดยไม่ต้องเจอหน้าเจอตัวครูผู้สอนเลยแม้แต่ครั้งเดียวมากขึ้น

3. อุบัติใหม่ของเทคโนโลยีเสมือนจริง

แว่นตาสร้างมิติเพื่อเล่นเกม อุปกรณ์การเล่นเกมที่เชื่อมเข้ากับแขนขาหรือศีรษะของผู้เล่นเพื่อจับการคลื่อนไหวหรือคลื่นสมอง รวมแล้วเรียกว่า เทคโนโลยีเสมือนจริง (Immersive Technology) เป็นอีกเทรนด์ที่ส่งผลต่อการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์

ที่ผ่านมา อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงมีผลต่อการเรียนรู้ต่อผู้ใช้งานอยู่แล้ว แต่หากในอนาคตที่การเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงก็จะมากขึ้นตามไปด้วย อาจจะเรียกว่า เทคโนโลยีเสมือนจริงและระบบ E Learning กอดคอพากันเติบโตก็ได้

เพราะเทคโนโลยีเสมือนจริงทำให้การเรียนการสอนออนไลน์ทำได้หลากหลายและเสมือนเรียนในห้องเรียนมากขึ้น เช่น ชั้นเรียนที่ต้องมีการจับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของร่างกายผู้เรียน ส่วนการเรียนออนไลน์ก็ส่งเสริมให้ผู้พัฒนาเทคโนโลยีเสมือนจริงคิดค้นอุปกรณ์ที่ส่งเสริมการสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพของชิ้นงานและการแข่งขันทางการตลาดด้วย